** อันดับที่ 1 "ฉลามชลโต๊ะเล็ก" พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี
จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากเหล่าขุนพล "ฉลามชลโต๊ะเล็ก" พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่สามารถผงาดซิวแชมป์ไปครองในฤดูกาลนี้ ทว่าการเป็นแชมป์ของเหล่าฉลามชลโต๊ะเล็กในปีนี้นั้น ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเลยทีเดียวก็ว่าได้ เพราะสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ใน 1 ปีได้ 2 โทรฟี่ หลังจากที่ก่อนฤดูกาลจะเริ่มในช่วงต้นปี พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี สามารถไปผงาดในเวทีระดับเอเชีย โดยการไปคว้าแชมป์ในศึกฟุตซอล ชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2017 ได้มาครอบครองเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสร ก่อนที่ปลายปีจะได้แชมป์ เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 เป็นถ้วยที่สอง และในครั้งนี้เป็นการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 9 จากการแข่งขันฟุตซอลไทยลีกที่จัดมาทั้งหมด 10 ครั้ง ของพวกเขาในนาม "ฉลามชลโต๊ะเล็ก" พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ด้วยผลงานแข่ง 26 นัด ชนะ 20 เสมอ 2 แพ้ 4 เก็บได้ถึง 62 คะแนน พร้อมครองสถิติยิงประตูคู่แข่งเยอะที่สุด 119 ประตู และเสียประตู 67 ลูกเท่านั้น
** อันดับที่ 2 "สิงห์คลองเตย" การท่าเรือ ฟุตซอลคลับ
ตามมาเป็นอันดับที่สองสำหรับแข้ง "สิงห์คลองเตย" การท่าเรือ ฟุตซอลคลับ ถึงแม้ว่า "โค้ชดม" อุดม ทวีสุข เฮดโค้ชใหญ่ของทีมการท่าเรือ จะต้องอกหักไปอีก 1 ฤดูกาล หลังพวกเขาพลาดท่าก่อนนัดสุดท้าย ที่ทำได้เพียงแค่เสมอกับ แบงค็อก บีทีเอส 3-3 ทำให้มีคะแนนตาม พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 5 คะแนน ซึ่งถ้าหากในนัดดังกล่าวชนะ ก็จะทำให้ตามเพียงแค่ 3 คะแนนและกลับมาเล่นในบ้านอีกด้วย แถมกฎเฮดทูเฮด ก็ดีกว่า เพราะในเลกแรกการท่าเรือนั้น บุกไปชนะ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 2-1 สุดท้ายก็ต้องเจ็บช้ำไปอีกปี แต่ถึงแม้จะไม่สามารถพาทีมการท่าเรือได้แชมป์ในปีนี้ก็ตาม แต่ทาง "โค้ชดม" อุดม ทวีสุข หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมการท่าเรือ ก็สามารถทำผลงานพาสโมสรการท่าเรือ ฟุตซอลคลับ คว้าแชมป์ฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์อาเซียน 2017 ซึ่งเป็นแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.60 ก็ยังได้รับรางวัลโค้ชดีเด่นในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2560 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย อีกด้วย โดยผลงานของการท่าเรือในฤดูกาลนี้ แข่ง 26 นัด ชนะ 19 นัด เสมอ 3 นัด แพ้ 4 นัด เก็บคะแนนไปได้ 60 คะแนน
** อันดับที่ 3 "อัศวินเมืองหลวง" แบงค็อก บีทีเอส
ต่อมาเป็นทาง "อัศวินเมืองหลวง" แบงค็อก บีทีเอส ที่จบอันดับที่ 3 ของฤดูกาลนี้ และเป็น 3 สมัยติดต่อกันแต่ยังไม่เคยสามารถคว้าแชมป์ในฟุตซอลไทยลีกได้เลย โดยทาง แบงค็อก บีทีเอส ที่สามารถเบียดลุ้นแชมป์และใกล้เคียงที่สุดก็คงจะต้องย้อนไปในปี 2015 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่คว้ารองแชมป์ไปได้ แต่ในฤดูกาล 2017 นี้ "อัศวินเมืองหลวง" ฟอร์มโดยรวมก็ยังถือว่ารักษามาตรฐานเอาไว้ได้ดี แถม "เจ้าวิน" นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ ผู้เล่นของแบงค็อก บีทีเอส และทีมชาติไทย ยังทำให้วงการโต๊ะเล็กลีกไทยถึงกับตกตะลึงกับการที่ "เจ้าวิน" คว้ารางวัลดาวซัลโวในศึก เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 ประจำฤดูกาลนี้ไปครอง ด้วยการระเบิดประตูไปถึง 24 ประตู แซงหน้า "เจ้าอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กองหน้าของ ''ฉลามชลโต๊ะเล็ก" พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี และ นนธ์พรรณ์ โพธิ์พืช ศูนย์หน้าของทีม "โลมาสีน้ำเงิน" พัทยา ไท-เทค ที่ยิงได้ 23 ประตูเท่ากันไปแบบต่อหน้าต่อตาอีกด้วย โดยผลงานของ "อัศวินเมืองหลวง" แบงค็อก บีทีเอส แข่ง 26 นัด ชนะ 16 นัด เสมอ 5 นัด แพ้ 5 นัด เก็บคะแนนไปได้ 53 คะแนน
** อันดับที่ 4 "กุ้งสายฟ้า" สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ
"กุ้งสายฟ้า" สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ สามารถมาเร่งฟอร์มในช่วงท้ายทำให้ขึ้นมาจนจบอันดับที่ 4 ของตาราง แซงหน้า ม.เกษมบัณฑิต และสมุทรสาคร ในฤดูกาลนี้ "กุ้งสายฟ้า" ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แถมเป็นทีมที่เวลาเล่นในบ้าน ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของพวกเขาเลยทีเดียวก็ว่าได้ และสามารถเอาชนะทั้งการท่าเรือ และพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ทีมแชมป์และรองแชมป์ในบ้านตัวเองได้อีกด้วย แถมสร้างสถิติผู้ชมเยอะที่สุด ในนัดที่เปิดสนามช้างตาปี อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของทาง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี และเอาชนะไปได้ 7-5 ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 4,623 คน เกือบเต็มความจุของสนาม แถมสร้างประวัติศาสตร์เป็นเกมที่มีแฟนฟุตซอลเข้าชมมากที่สุด ในการแข่งขัน เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 ซึ่งขายบัตรเพียงใบละ 60 บาทเท่านั้น โดยเก็บค่าเข้าชมไปได้ทั้งสิ้น 277,380 บาท สำหรับผลงานในฤดูกาลนี้ของทาง "กุ้งสายฟ้า" สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ แข่ง 26 นัด ชนะ 15 นัด เสมอ 3 นัด แพ้ 8 นัด เก็บคะแนนไปได้ 48 คะแนน
** อันดับที่ 5 "โต๊ะเล็กนักศึกษา" มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
ต่อกันที่ ม.เกษมบัณฑิต ทีมแกร่งย่านร่มเกล้า ในฤดูกาล 2017 สามารถโชว์ได้อย่างโดดเด่นในช่วงท้ายซีซั่นจนจบอันดับที่ 5 ของตาราง แม้จะไม่ถึงกับฟอร์มเข้าฟักมากนัก แต่ก็ทำให้เหล่าทีมคู่แข่งจะมาชนะ "โต๊ะเล็กนักศึกษา" บอกได้เลยว่าไม่ง่าย ถือได้ว่าฟอร์ฒโดยรวมในฤดูกาลนี้ ต้องบอกเลยว่ายังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้อย่างดีเช่นเคย สำหรับผลงานของ "โต๊ะเล็กนักศึกษา" มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แข่ง 26 นัด ชนะ 14 นัด เสมอ 6 นัด แพ้ 6 นัด เก็บคะแนนไปได้ 48 คะแนน
** อันดับที่ 6 "ปลาตีนเริงร่า" สมุทรสาคร
มากันที่ "ปลาตีนเริงร่า" สมุทรสาคร ภายใต้การคุมทีมของมือซ้าย "ปูปิส" กุนซือทีมชาติไทย อย่าง "โค้ชถึก" สุรพงษ์ พลายอยู่วงษ์ กุนซือจอมแท็คติกของสมุทรสาคร ซึ่งฟอร์มของทีมในช่วงแรกถือว่าดีเลยทีเดียว สามารถเก็บชัยชนะได้ติดๆกัน แต่กลับต้องมาแผล่วปลาย ไปในช่วง 4-5 นัดสุดท้ายของฤดูกาล ทำให้อันดับตกลงมาจากอันดับที่ 4 จบด้วยอันดับที่ 6 ของตารางในซีซั่นนี้ สำหรับผลงานของ "ปลาตีนเริงร่า" สมุทรสาคร แข่ง 26 นัด ชนะ13 นัด เสมอ 3 นัด แพ้ 10 นัด เก็บคะแนนไปได้ 42 คะแนน
** อันดับที่ 7 "ไฮเวย์" กรมทางหลวง
เป็นทางฝั่ง "ไอเวย์" กรมทางหลวง ที่จบอันดับที่ 6 ไปในฤดูกาลนี้ แต่ก็ถือได้ว่าทีมได้พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก โดยในช่วงหลังมาเร่งเครื่องจนทำให้ชนะได้ติดๆกัน และต้องขอชื่นชมฟอร์มในช่วงหลังของ "เจ้าดาส" ภาคียะ จันทร์แถม นายด่านสุดหล่อกัปตันทีมของกรมทางหลวง ที่สามารถสร้างฟอร์มตัวเองขึ้นมาทำให้เซฟสวยๆและช่วยทีมไปหลายลูก จนทำให้ "เจ้าดาส" กลับไปติดทีมชาติในชุดลุยศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2018 ได้อีกด้วย สำหรับผลงานของทาง "ไฮเวย์" กรมทางหลวง แข่ง 26 นัด ชนะ 10 นัด เสมอ 8 นัด แพ้ 8 นัด เก็บคะแนนไปได้ 38 คะแนน
** อันดับที่ 8 "ตะหานน้ำ" ราชนาวี
มาถึงทีมสุดท้ายของศึกฟุตซอลไทยลีก 2017 อย่างขุนพลกองทัพเรืออย่าง "ตะหานน้ำ" ราชนาวี ที่จบอันดับที่ 8 ของตาราง ถึงแม้ฟอร์มของทีมในซีซั่นนี้จะไม่ค่อยสม่ำเสมอสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังสามารถที่จะจบเลขตัวเดียวได้ ซึ่งผู้เล่นภายในทีมอย่าง "จ่าต็อบ" เจษฏา ชูเดช กัปตันของทีมราชนาวี และยังเป็นผู้ช่วยโค้ชอีกด้วย ที่คอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ฟอร์มตลอดทั้งฤดูกาลจะไม่เปรี้ยงปร้างก็ตาม แต่ก็ถือว่ายังรักษามาตรฐานทีมเอาไว้ได้อย่างดีทีเดียว สำหรับผลงานของทาง "ตะหานน้ำ" ราชนาวี แข่ง 26 นัด ชนะ 9 นัด เสมอ 5 นัด แพ้ 12 นัด เก็บคะแนนไปได้ 32 คะแนน
** อันดับที่ 9 "อัศวินสีส้ม" แคท เอฟซี
หลังจากโลดแล่นในโต๊ะเล็กเมืองไทย มาตั้งแต่ยุคแรกก่อตั้งลีกครั้งแรกในปี 2006 ที่ร่วงจากฟุตซอลไทยลีกในปี 2016 หลังทำผลงานจบที่อันดับ 13 ทำให้ต้องมาปรับโฉมหน้าทีมกันใหม่โดยมีเป้าหมายเดียวคือการคัมแบ็คสู่ฟุตซอลลีกสูงสุดของเมืองไทยอีกครั้ง โดย "โค้ชเอ-อองรี" วีระยุทธ ทวีกัน ที่มีบทบาทในทีมมากขึ้นกับตำแหน่งโค้ชแอนด์เพลย์เยอร์ และทำผลงานเริ่มต้นออกสตาร์ทเลก 2 ได้ดีด้วยการเอาชนะนครปฐม ซักกา 5-2 จนสามารถคว้าแชมป์และเลื่อนชั้นกลับสู่ฟุตซอลลีกสูงสุดได้สำเร็จอย่างสวยหรูในเกมถล่มราชบุรี 12-0 แม้จะเหลือเกมอีก 1 นัดก็ตาม ก่อนที่เกมนัดสุดท้ายจะเสมอกับ เวียงพิงค์-ราชภัฏเชียงใหม่ ไป 4-4 อีกทั้ง ประภาส อยู่สำราญ ยังคว้าดาวซัลของลีกหลังกดไป 18 ประตู รวมถึง บริบูรณ์ กลางหล้า ที่คว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของซีซั่นไป สำหรับ แคท เอฟซี ในฤดูกาลนี้ ได้รับถ้วยรางวัลชนะเลิศ และเหรียญรางวัล พร้อมเงินสนับสนุนจำนวน 360,000 บาท และเลื่อนชั้นสู่ เอไอเอส ฟุตซอลไทยลีก ในฤดูกาล 2018 เป็นที่เรียบร้อย จากผลงานที่ผ่านมา แข่ง 14 นัด ชนะ 9 นัด เสมอ 4 นัด แพ้ 1 นัด เก็บได้ 31 คะแนน
** อันดับที่ 10 "นักศึกษาลูกอีสาน" มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และอันดับสุดท้ายเป็นของเล่าแข่ง "นักศึกษาลูกอีสาน" มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สามารถเลื่อนชั้นกลับมาสู่เวทีฟุตซอลไทยลีกได้อีกครั้ง หลังจากจบด้วยอันดับที่สองของตาราง ด้วยฟอร์มที่ไม่เป็นสองรองใคร และในปีหน้าเป้าหมายของทีมนั้นก็คือการอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุด ซึ่งถือว่าไม่ง่าย แต่ท่าทางทีมมีการบริหารจัดการภายในทีมหรือการซื้อขายนักเตะได้เป็นอย่างดี ก็อาจจะทำให้ "นักศึกษาลูกอีสาน" ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน สำหรับฤดูกาล 2017 ที่ผ่านมา ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าป้ายเป็นอันดับที่สอง พร้อมรับโล่รางวัลรองชนะเลิศ พร้อมเงินสนับสนุนจำนวน 260,000 บาท และได้เลื่อนชั้นสู่ฟุตซอลไทยลีก ฤดูกาล 2018 ด้วยจผลงานแข่ง 14 นัด ชนะ 8 นัด เสมอ 3 นัด แพ้ 3 นัด เก็บคะแนนไปได้ 27 คะแนน
"กอล์ฟ เบนเทเก้"
|