สิ่งสำคัญที่จะทำให้การจดเลกเชอร์ของน้องๆ ได้ผลมากที่สุดคือการเตรียมตัว-เตรียมความพร้อมให้ดีก่อนเริ่มฟังบรรยาย วัยเรียนส่วนใหญ่มักตั้งใจจดเลกเชอร์ในเวลาที่อาจารย์พูดว่าส่วนไหนสำคัญ หรือจดไปเรื่อยๆ ออกนอกทะเลอย่างไม่มีแกนหลักของเนื้อหาเอาซะเลย พอนำกลับมาอ่านตอนช่วงสอบถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก วันนี้ Life on Campus ขอนำเทคนิคการจดเลกเชอร์ให้ได้ผล และรับรองได้เลยว่าจะช่วยให้การสอบของน้องๆ ผ่านฉลุยอย่างแน่นอน..
เช็คขอบเขตเนื้อหาก่อนเรียน!
การดูขอบเขตของเนื้อหาสำหรับอาทิตย์ที่จะเรียน หากเป็นไปได้น้องๆ ควรอ่านเนื้อหาคร่าวๆ มาเสียก่อน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่รวดเร็วในคาบเรียนนั้นจริงๆ และสำหรับการจดเลกเชอร์ควรเขียนหัวข้อที่สำคัญสำหรับเนื้อหาที่จะเรียนในแต่ละครั้ง รวมถึงจดคำถามที่เกิดข้อสงสัยไว้ถามระหว่างเรียนด้วย
นั่งหน้า-ตั้งใจฟัง!
ถึงแม้การนั่งหน้าห้องติดโต๊ะอาจารย์จะทำให้เรากลายเป็นเด็กเนิร์ดในสายตาเพื่อนๆ แต่ช่างเถอะมันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้ท๊อปวิชานั้นๆ เลยก็ว่าได้ การนั่งหน้าชั้นและสนใจฟังสิ่งที่อาจารย์บรรยาย รวมถึงสายตาโฟกัสไปที่ผู้สอนจะทำให้เรามีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้เราไม่กล้าหลับในคาบเรียนอีกด้วย
|
ฟังก่อนค่อยจด
หลายคนอาจกังวลเรื่องการจดเลกเชอร์ระหว่างการฟังบรรยาย ว่าหากไม่จดตามไปด้วยระหว่างที่ผู้สอนพูดจะจดไม่ทัน ตามไม่ทันบ้าง แต่อย่าลืมว่าการจดเลกเชอร์ที่ดีนั้น ต้องฟังก่อนจดเสมอเพราะเมื่อฟังแล้วก็จะต้องคิดตามและจัดระเบียบเนื้อหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในสมองก่อนที่จะทำการจดลงไป ซึ่งจะทำให้การจดนั้นเป็นขั้นเป็นตอน มีระบบ และเมื่อกลับมาอ่านก็จะสามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็วนั้นเอง
แบ่งหัวข้อให้ชัดเจน
ในขณะที่ฟังเลกเชอร์น้องๆ ไม่จำเป็นต้องจดทุกคำที่อาจารย์บรรยาย การจดที่ดีควรมีการแบ่งหัวข้อให้ชัดเจน รวมถึงจับประเด็นและใจความสำคัญของเนื้อหาให้ได้ จากนั้นให้เรียบเรียงลงในสมุด การแบ่งหัวข้อยังช่วยให้เรารู้ว่าเนื้อหาได้จบไป1หัวข้อแล้วกำลังขึ้นหัวข้อใหม่ อีกทั้งยังทำให้เราเรียบเรียงความสัมพันธ์ของเนื้อหาได้เป็นลำดับขั้นตอนมากขึ้นและยังทำให้เราเข้าใจรายละเอียดแต่ละหัวข้ออีกด้วย
จดเป็นระเบียบ-เว้นที่ว่างช่วยให้สบายตา
คงไม่มีใครอยากอ่านเลกเชอร์ที่ไม่เป็นระเบียบใช่ไหมล่ะ เพราะอ่านยากและอาจทำให้สับสน ดังนั้นการจดเลกเชอร์ควรจดให้เป็นระเบียบและเขียนตัวหนังสือให้อ่านง่าย เพื่อให้การกลับมาอ่านทบทวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งควรมีการเว้นที่ว่างบ้างในหน้าที่จดเพื่อให้ได้มีการพักสายตาจากเนื้อหาที่อ่าน
การจดแบบอัดแน่นไปด้วยตัวอักษร นอกจากจะอ่านยากแล้ว ทำให้หมดอารมณ์ในการอ่านอีกด้วย การเว้นบรรทัดระหว่างหัวข้อ หรือเว้นที่ไว้สำหรับประเด็นที่ยังไม่เคลียร์ ทำให้เราสามารถจดเพิ่มเติมตอนอ่านทบทวนได้ และนอกจากนี้ยังสบายตาเวลาจะหาประเด็นสำคัญๆ ในหน้านั้นๆ
|
|
ใช้สัญลักษณ์..สื่อความหมาย
เชื่อเถอะว่าลำพังการจดเลกเชอร์ให้ทันที่อาจารย์พูดก็ยากอยู่แล้ว ยิ่งอาจารย์บางคนพูดเร็วอย่างกับจรวด น้องๆ หลายคนคงตามไม่ทันกันบ้าง ดังนั้นอีกวิธีที่ทำให้การจดเป็นไปอย่างรวดเร็วและเนื้อหาไม่ตกหล่นนั้นคือ การใช้สัญลักษณ์แทนคำพูด เพราะการเขียนสัญลักษณ์แทนประโยคที่ต้องเขียนทำให้จดได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ง่ายต่อการทบทวนอีกด้วย
สำหรับสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการจดเลกเชอร์นั้นจะเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายที่น้องๆ อ่านแล้วเข้าใจ เช่นใช้เครื่องหมาย "ดอกจัน" เพื่อเน้นความสำคัญ ในส่วนที่อาจารย์เน้นย้ำ หรือการใช้เครื่องหมายบวกเพื่อแทนคำว่า “และ” ใช้ลูกศรชี้ขึ้นหรือชี้ลงเพื่อแทนความหมาย “เพิ่มขึ้นหรือลดลง” นั้นเอง
ใช้อักษรย่อ
การจดเลกเชอร์ให้เร็วอีกวิธีหนึ่งที่หลายคนนิยมจดกันคือ “การใช้อักษรย่อ” เพราะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการจดแทนที่จะเขียนคำยาวๆ ลงไป เช่น การใช้ “ปสก” แทนคำว่า “ประสบการณ์” คำว่า “ตย” แทนคำว่า “ตัวอย่าง” ใช้ “ค.หรือ ก.” แทนคำว่า “ความหรือการ” ใช้ “ปวศ” แทนคำว่า “ประวัติศาสตร์” หรืออาจใช้เป็นตัวย่อภาษาอังกฤษ เช่น “coz” แทนคำว่า “เพราะ” ใช้ “ex” แทนคำว่า “ตัวอย่าง” ซึ่งตัวย่อเหล่านี้อาจคิดขึ้นมาเองตามความเข้าใจของผู้จด
|
 |
ภาพประกอบ 'เลกเชอร์น้องปรางค์' |
|
 |
วาดภาพสร้างสีสัน
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้การอ่านเลกเชอร์ของน้องๆ ไม่น่าเบื่อหน่ายและสร้างความรู้สึกอยากอ่านได้ดี คือการวาดภาพประกอบและการใช้สีสันในการจดเพื่อช่วยในเรื่องของการจดจำ การวาดภาพจะช่วยให้เราจดจำเนื้อหาได้ดีและง่ายกว่าอ่านเป็นตัวอักษร ทำให้น้องๆ เห็นภาพรวมของเนื้อหานั้นๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งเวลากลับมาทบทวนจะช่วยให้เราไม่เกิดความรู้สึกลายตาและชวนง่วงนอน เพราะภาพวาดและสีสันที่สะดุดตาจะทำให้เราเกิดจินตนาการได้ดีกว่านั้นเอง
แน่นอนว่าหากน้องๆ ทำตามขั้นตอนที่ Life on Campus นำมาฝากกันข้างต้น รับรองว่าการจดเลกเชอร์จะต้องได้ผลสุดๆ แต่ที่สำคัญต้องอย่าลืมว่าทุกครั้งที่จดเลกเชอร์การบรรยายเสร็จสิ้นแล้ว ต้องนำกลับมาทบทวนหาข้อผิดพลาดและแก้ไขสิ่งที่เราเขียนด้วย ถือเป็นการทบทวนความรู้ที่เราจดมาอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน
|
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตและข้อมูลจาก..
- http://www.studentvillage.co.za/student-life-how-to/how-to-take-perfect-lecture-notes-for-exams
- http://www.wikihow.com/Lecture-Well
- http://www.top-atutor.com
|