ถาม-ตอบ (Q&A)
อาการปวดหัว 14 ชนิด รักษาแบบนี้สิถึงตรงจุด
โพสโดย
bombam
bombam2466@gmail.com
อาการปวดหัว

          
          อาการปวดหัวที่เราเป็นกันอยู่จริง ๆ แล้ว มีมากมายหลายสาเหตุ แต่ละสาเหตุก็รักษาไม่เหมือนกัน เช็กดูเลย คุณปวดหัวแบบไหนอยู่

          อาการปวดหัวเป็นอาการเจ็บป่วยสามัญที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เคยสังเกตไหมคะว่า อาการปวดหัวในแต่ละครั้งจะมีความแตกต่างเล็ก ๆ พอให้จับสังเกตได้อยู่เหมือนกัน ซึ่งทางเว็บไซต์ Health.com เขาก็บอกมาว่า ที่อาการปวดหัวมีขั้นความรุนแรงก็เพราะจริง ๆ แล้วอาการปวดหัวแบ่งออกได้ถึง 14 ชนิดตามนี้นั่นเอง
 
1. อาการปวดหัวชนิดรีบาวน์ด (Rebound headache)

          * อาการ

          ปวดศีรษะเกือบทุกวัน โดยเฉพาะหลังตื่นนอน อาจปวดที่บริเวณขมับหรือทั้งศีรษะเลยก็ได้ ส่วนความรุนแรงแล้วแต่อาการของแต่ละคน

          * สาเหตุ

          อาการปวดหัวชนิดรีบาวน์ดเกิดจากการรับประทานยาแก้ปวดปริมาณมากเกินไป โดยเฉพาะยาแก้ปวดจำพวกอะซีตะมิโนเฟน (Acetaminophen) หรือไทลินอล, แอสไพริน และไอบูโพรเฟนเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมทั้งยารักษาโรคไมเกรน (Triptans) เกิน 10 วันต่อเดือนด้วย ซึ่งเมื่อเรากินยาแก้ปวดติดต่อกันนาน ๆ จนร่างกายเกิดความเคยชิน อาการปวดก็จะถูกฤทธิ์ยากดไว้ ทว่าพอฤทธิ์ยาในร่างกายหมดไป อาการปวดหัวฟื้นกลับมาแสดงอาการอีกครั้งในทันที

          * วิธีรักษา

          อาการปวดหัวชนิดนี้ทำได้เพียงแค่ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ปรับสมดุลปริมาณยาในร่างกายของเราให้เข้าที่เข้าทาง
 
ปวดหัวจากความเครียด

2. อาการปวดหัวจากความเครียด (Tension headache)

          * อาการ
            
          จะมีความรู้สึกปวดหนัก ๆ ที่ขมับทั้งสองข้าง เหมือนมีแรงดันจากภายในแต่ไม่ปวดแบบตุบ ๆ อาจเกิดตั้งแต่ระดับน้อย ปานกลาง และมาก หรือบางรายอาจรู้สึกปวดที่ต้นคอ หลัง และไหล่ร่วมด้วย

          * สาเหตุ
            
          เกิดจากความเครียด ความวิตกกังวล ความรู้สึกกดดันในบางเรื่องจนทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายหดเกร็ง หรือแม้แต่การนั่งและนอนผิดท่า การใช้สายตามากเกินไป และแม้แต่อยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิเย็นจัด ก็เป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อรอบคอเกร็งจนกระทบกับสมอง นำไปสู่อาการปวดหัวได้เช่นกัน
            
          * วิธีรักษา
            
          ในเบื้องต้นสามารถรักษาโดยใช้ยาแก้ปวดจำพวกไทลินอล, แอสไพริน และไอบูโพรเฟนได้ หรือจะไปนวดคลายกล้ามเนื้อก็ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ปริมาณยาแก้ปวดที่จะกินควรต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์และเภสัชกรด้วยนะคะ
 

3. อาการปวดหัวอันเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพฟัน (Dental headache)
            
          * อาการ

          ปวดศีรษะได้ทั้งสองข้าง หรือข้างเดียว แต่อาการที่พอจะสังเกตได้ก็คือลักษณะอาการปวดจะเหมือนมีอะไรมารัดรึงที่หัว ปวดรอบ ๆ ลูกตา ปวดร้าวแนวกรามและขากรรไกร บางรายอาจมีอาการกัดฟันในตอนกลางคืนร่วมด้วย และสัมผัสได้ถึงอาการปวดศีรษะเมื่อเอามือไปแตะที่หน้าผาก พร้อมทั้งเมื่ออ้าปากอาจมีเสียงดังกึ้กให้ได้ยินเบา ๆ

          * สาเหตุ

          เกิดจากปัญหาความผิดปกติของข้อขมับและขากรรไกรล่างที่ทำให้การสบฟันผิดปกติไปด้วย จนเป็นเหตุให้กล้ามเนื้อที่ควรได้รับการพักผ่อนต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นหลายเท่า นานเข้าจึงส่งสัญญาณความเมื่อยล้ามาเป็นอาการปวดหัว
            
          * วิธีรักษา
            
          ทางเดียวที่จะลดอาการปวดหัวจากสาเหตุนี้ได้ คือ ต้องปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการผิดปกติและหาทางรักษาคุณต่อไป ซึ่งอาจจะต้องเอกซเรย์ข้อต่อขากรรไกร และสำรวจความผิดปกติของสัมผัสฟันที่มีปัญหาอยู่ด้วย
 

4. อาการปวดหัวชนิดคลัสเตอร์ (Cluster Headache)
            
          * อาการ
           
           อาการปวดศีรษะในแต่ละครั้งจะเป็นช่วงเวลาไม่นาน ราว 5 นาที หรือสูงสุด 3 ชั่วโมง แต่จะรู้สึกปวดหัวแบบทรมานเหมือนจะตายเลยทีเดียว และอาการปวดจะเกิดขึ้นบ่อยแต่เป็นเวลาที่แน่นอน และมักจะมีอาการน้ำตาไหลข้างเดียวและมีเส้นเลือดแตกในตา ทำให้เกิดอาการตาแดง
            
          * สาเหตุ

          เกิดจากความผิดปกติของต่อมไพเนียลและนิวเคลียส (Nucleus) ของเซลล์ประสาทสมองที่ 5 ซึ่งทำให้ระบบการส่งฮอร์โมนและสารสื่อประสาทปรวนแปร ส่งผลกระทบให้ประสาทสัมผัสอัตโนมัติที่ควบคุมการทำงานของต่อมน้ำลาย ต่อมน้ำตา และน้ำมูกทำงานผิดปกติ รวมทั้งปล่อยสารเคมีบางชนิดไปที่เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก (Dura) ทำให้เกิดอาการปวดหัวในเวลาต่อมา
            
          * วิธีรักษา

          อาการปวดหัวชนิดคลัสเตอร์สามารถรักษาและบรรเทาอาการได้โดยใช้ยากลุ่มทริปเทนต์ (Triptan) หรือยารักษาโรคไมเกรน และการสูดดมออกซิเจน ขนาด 10 ลิตรผ่านหน้ากากให้ออกซิเจนก็ได้
 

ไมเกรน

5. อาการปวดหัวไมเกรน (Migraine)
            
          * อาการ
            
          มีอาการปวดหัวข้างเดียว ปวดแบบหนัก ๆ ในรายที่อาการหนักมากอาจวียนศีรษะและอาเจียนร่วมด้วย หรือบางรายอาจมีอาการปวดหัวทั้งสองข้าง แต่ปวดตุบ ๆ ติดกันต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทั้งนี้อาการปวดหัวไมเกรนนับเป็นโรคปวดหัวเรื้อรังชนิดหนึ่ง
            
          * สาเหตุ
            
          สาเหตุของโรคไมเกรนยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มักจะเอนเอียงไปทางความผิดปกติชั่วคราวของหลอดเลือดสมองและสารเคมีในสมอง ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังเป็นผลพวงจากการสะสมความคเรียด พฤติกรรมการรับประทานอาหาร และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอติดกันเป็นเวลานานด้วยนะคะ
            
          * วิธีรักษา
            
          ในเบื้องต้นสามารรถรับประทานยาบรรเทาอาการปวดได้ โดยใช้ยาแก้ปวดจำพวกอะซีตะมิโนเฟน (Acetaminophen), ไอบูโพรเฟน และทริปเทนต์ (Triptan) หรือยารักษาโรคไมเกรน แต่อย่างไรก็ดีคววรเข้ารับการรักษาจากแพทย์อีกทางหนึ่ง
 

กาแฟ

6. อาการปวดหัวจากฤทธิ์คาเฟอีน (Caffeine headache)
            
          * อาการ
            
          มีอาการปวดหัวตื้อ ๆ หนักหัวเหมือนร่างกายพักผ่อนไม่พอ บางรายอาจมีอาการเวียนศีรษะเพิ่มด้วยอีกอย่าง หรือไม่ก็รู้สึกปวดกระบอกตาตุบ ๆ ตลอดเวลา
            
          * สาเหตุ
            
          ชื่อก็บอกชัดอยู่แล้วนะคะว่าสาเหตุของอาการปวดหัวเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์ของคาเฟอีน ซึ่งก็ได้มาจากกาแฟที่คุณ ๆ ชอบกินนี่ล่ะ โดยเฉพาะใครที่กินกาแฟเกินวันละ 5 แก้ว อาการปวดหัวชนิดนี้จะตามมาคุกคามคุณในอีกไม่ช้า
            
          * วิธีรักษา
            
          นอกจากการรับประทานยาแก้ปวดทั่วไป อีกทางหนึ่งที่ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ก็คือการลดปริมาณคาเฟอีน นั่นก็หมายความว่าต้องค่อย ๆ ลดปริมาณกาแฟในแต่ละวันให้เหลือแค่ 2 แก้วต่อวันเป็นอย่างมาก
 

7. อาการปวดหัวจากการมีเพศสัมพันธ์ (Orgasm headaches)
            
          * อาการ
            
          ปวดจี๊ดที่ศีรษะอย่างฉับพลัน มักจะเกิดในช่วงใกล้ถึงจุดสุดยอดหรือในบางรายอาจปวดก่อนและหลังมีเพศ สัมพันธ์ก็เป็นได้ โดยมีแนวโน้มเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งอาการปวดจะคงตัวอยู่ได้นาน 1 ชั่วโมงถึง 1 วันเลยทีเดียว
            
          * สาเหตุ
            
          ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุของอาการปวดศีรษะชนิดนี้ แต่ที่จับสังเกตได้คืออาการปวดจะหายไปเองโดยอัตโนมัติ และอาจไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

          * วิธีรักษา
            
          เนื่องจากยังไม่สามารถทราบสาเหตุของอาการได้ ในเบื้องต้นจึงทำได้เพียงกินยาบรรเทาอาการปวดไปก่อน และถ้าต้องการป้องกัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ระบุให้กินยาแก้ปวดก่อนมีเพศสัมพันธ์ราว 1-2 ชั่วโมง พร้อมกันนั้นก็พยายามอย่าเร่งจังหวะการเคลื่อนไหวรุนแรงมากนัก
 

ปวดหัวตอนเช้า

8. อาการปวดหัวทุกเช้า (Early morning headaches)
            
          * อาการ
            
          มีอาการปวดหัวตุบ ๆ ทุกเช้าหลังตื่นนอน บางรายจะรู้สึกหนักหัวเหมือนลุกไม่ไหว
            
          * สาเหตุ
           
           สาเหตุของโรคค่อนข้างถูกพูดถึงอย่างกว้าง ๆ เพราะอาจจะเป็นหนึ่งสัญญาณของโรคไมเกรน โรคเครียด โรคปวดศีรษะเพราะปัญหาสุขภาพฟัน หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอก็ได้

          * วิธีรักษา
            
          ทางที่ดีควรสังเกตอาการของตัวเองให้แน่ชัด ถ้าปวดหัวเป็นเวลาต้องจำเวลาไปบอกแพทย์ด้วย เพื่อเป็นข้อมูลให้แพทย์ได้วินิจฉัยได้ตรงจุดมากขึ้น และหากคุณมีอาการปวดที่รุนแรง กินยาแก้ปวดก็ไม่ช่วยอะไร อาจจะต้องเข้ารับการสแกนสมองเพื่อค้นหาว่ามีเนื้องอกในสมองด้วยหรือเปล่า
 
 
9. อาการปวดหัวจากไซนัสอักเสบ (Sinus headaches)

          * อาการ
            
          อาการปวดหัวจากไซนัสอักเสบมีความคล้ายคลึงกับอาการหวัดทั่วไปและอาการปวดหัวไมเกรนมากจนแทบแยกไม่ออก แต่สำหรับคนที่เป็นโรคไซนัสอยู่แล้วอาจคาดเดาไปก่อนได้ว่า ตัวเองน่าจะมีอาการปวดหัวจากผลกระทบของโรคไซนัสอักเสบ ซึ่งโดยส่วนมากจะรู้สึกปวดหน่วง ๆ บริเวณหน้าผาก ร้อนผ่าวกระบอกตา ลามไปถึงโหนกแก้มเลยทีเดียว
            
          * สาเหตุ
            
          เกิดจากการอักเสบบริเวณเยื่อโพรงจมูก ซึ่งส่งผลกระทบให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นหดเกร็งจนอาจรู้สึกปวดศีรษะได้
            
          * วิธีรักษา
            
          โดยปกติแล้วหากรักษาโรคไซนัสให้หายเป็นปกติได้ อาการปวดหัวก็จะหายไปพร้อมกัน หรือบางรายที่อาการไซนัสไม่รุนแรง ร่างกายจะสามารถรักษาตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งยาใด ๆ
 

ปวดหัว

10. อาการปวดหัวจากการดื่มอาหารเย็นจัด (Ice cream headache)
            
          * อาการ
           
           ปวดจี๊ดขึ้นสมองโดยทันทีเมื่อกินอาหารเย็นจัด เช่น ไอศกรีมหรือน้ำเย็นเจี๊ยบ ส่วนมากมักจะรู้สึกเจ็บจี๊ดบริเวณขมับ หรือบางรายอาจปวดร้าวไปทั้งหัว และในผู้ป่วยไมเกรนจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้เร็วและรุนแรงกว่าในคนปกติ
            
          * สาเหตุ
            
          ในร่างกายของเรามีกลไกการป้องกันสิ่งแปลกปลอมโดยอัตโนมัติ ซึ่งการรับประทานไอศกรีมเย็นจัดในขณะที่ร่างกายมีอุณหภูมิอบอุ่นก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ดังนั้นเมื่อเรากินไอศกรีมเย็นจัดเข้าไป เส้นเลือดบริเวณเพดานปากก็จะแสดงปฏิกิยาโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ความเย็นจัดกระทบไปถึงสมอง เป็นสาเหตุให้เส้นเลือดที่ต่อตรงไปยังสมองสูบฉีดเลือดอย่างเร็วจนทำให้เกิดอาการปวดจี๊ดที่สมองดังกล่าว
            
          * วิธีรักษา
            
          เบื้องต้นให้หยุดรับประทานไอศกรีมก่อน จากนั้นดื่มน้ำอุ่นตามเพื่อคลายเส้นเลือดที่หดเกร็ง อีกทั้งค่อย ๆ เล็มไอศกรีมอย่างช้า ๆ และพักไอศกรีมไว้ที่ลิ้นสักพักเพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิก่อน ซึ่งก็สามารถช่วยบรรเทาและป้องกันอาการปวดหัวได้เหมือนกัน
 
11. อาการปวดหัวเรื้อรัง (Chronic daily headache)
            
          * อาการ
           
           ปวดหัวติดต่อกันมากกว่า 15 วันต่อเดือน และปวดอย่างนี้เรื่อย ๆ เกิน 3 เดือน ในบางรายอาจมีอาการไข้และปวดเมื่อยบริเวณคอและไหล่ร่วมด้วย
            
โพสโดย : bombam
IP : 202.29.178.58
โพสเมื่อวันที่ : 23 พ.ค. 2560,16:04 น.
แสดงความเห็น
ความคิดเห็น :
ชื่อ :
อีเมล :
เบอร์โทร :
กรอกรหัส :