ถาม-ตอบ (Q&A)
โรคอัลไซเมอร์
โพสโดย
Lucky
toy_71@yahoo.com

โรคอัลไซเมอร์ ภาวะความจำเสื่อม ถ้าคนใกล้ชิดเป็นโรคนี้ต้องทำอย่างไร

โรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม ภาวะความจำเสื่อมโรคอัลไซเมอร์ ภาษาอังกฤษ เรียก Alzheimer’s disease ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม ผู้ป่วยโรค จะมีอาการ เช่น ความจำเสื่อม หลงลืม นิสัยและพฤติกรรมเปลี่ยน ซึ่งอาการจะค่อยๆเป็ยอย่างละช้าๆ จนในที่สุดผู้ป่วยจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และเสียชีวิตในที่สุด

โรคอัลไซเมอร์ สามารถพบได้มากกับผู้ป่วยที่อายุมาก อายุยิ่งมากเท่าไรก็มีโอกาสเป็นมากขึ้น จากสถิติ ประชากรไทย ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นโรคนี้ร้อยละ 2 ถึงร้อยละ 4

สาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์  ซึ่งทางการแพทย์พบว่า ร้อยละ 7 ของผู้ป่วยสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ซึ่งเป็นความผิดปรกติของโครโมโซม คู่ที่ 1 14 19 และ 21 ซึ่งในผู้ป่วยที่เป็นโรคปัญญาอ่อน หรือโรคกลุ่มอาการดาวน์ (Down’s syndrome) หลังจากอายุเกิน 40 ปี จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ในที่สุด นอกจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแล้วยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ เช่น อายุที่มากขึ้น การเกิดอุบัติเหตุที่สมอง โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโหิตสูง สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสเกิดอัลไซลเมอร์ได้

อาการของโรคอัลไซเมอร์เป็นอย่างไร อาการของโรคนี้สามารถแบ่งได้ เป็น 4 ระยะ คือ ระยะก่อนสมองเสื่อม สมองเสื่อมระยะแรก สมองเสื่อมระยะปานกลาง และสมองเสื่อมระยะสุดท้าย ซึ่งรายละเอียดของอาการสมองเสื่อมแต่ละระยะมีดังนี้

1. ระยะก่อนสมองเสื่อม ในระยะนี้ผู้ป่วยจะมีปัญหาเรื่องการจดจำสิ่งที่พึ่งเรียนรู้มาไม่นาน แต่ว่ายังไม่มีอาการที่ชัดเจน ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ และยังสามารถตัดสินใจทำในสิ่งต่างๆได้ ยกเว้นเรื่องที่สลับซับซ้อน
2. สมองเสื่อมระยะแรก ในระยะนี้ผู้ป่วยจะสูญเสียความทรงจำระยะสั้น หรือความจำที่เพิ่งเรียนรู้มา ลักษณะอาการ เช่น ลืมของ ลืมเวลานัด ทานยารักษาโรคซ้ำๆ ถามซ้ำ พูดซ้ำ ในระยะนี้การใช้ชีวิตของผู้ป่วยเริ่มไม่เป็นปกติ แต่ยังสามารถสื่อสารบอกความคิดพื้นฐานของตนได้ ทำกิจวัตรประจำวันต่างๆได้ แต่ขาดความคล่องแคล่วเหมือนปรกติ
3. สมองเสื่อมระยะปานกลาง ในระยะนี้ผู้ป่วยจะสูญเสียความทรงจำระยะสั้นไปเลย ส่วนความจำระยะยาว และความรู้ทั่วไป จะค่อยๆเสื่อมลง ในระยะนี้ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองแต่จะมีความรู้สึกว่าอยู่ต่างสถานที่ตลอดเวลา เรื่องของภาษาและการพูดจะมีปัญหาชัดเจน ทักษะเรื่องของการอ่านและการเขียน จะค่อยๆเสื่อมลง ผู้ป่วยรู้สึกสับสน วิตกกังวล หงุดหงิด โมโหง่าย และอารมณ์แปรปรวน
4. สมองเสื่อมระยะสุดท้าย ในระยะนี้ผู้ป่วยจะสูญเสียความทรงจทั้งหมด ทั้ง ระยะสั้น ระยะยาว และความรู้ทั่วไป ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยจะไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆได้เลย แม้กระทั้งการอาบน้ำ การกินข้าว การแต่งตัว การเดิน หรือการนั่ง และไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้

ผลข้างเคียงของโรคอัลไซเมอร์เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ และส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 10 ปี ซึ่งการใช้ชีวิตจะเริ่มลำบาก และจะเปลี่ยนแปลงมาก เมื่อความทรงจำหาย

การรักษาโรคอัลไซเมอร์ ปัจจุบันยังไม่มี ยาหรือวิธีการรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายขาดได้ แต่การรักษาสามารถทำได้ด้วยการให้ยาเพื่อช่วยชะลออาการของโรค โดย ยาที่ให้ มีอยู่ 4 ชนิด คือ Donezpezil , Rivastigmin, Galantamine, และ Memantine  และการให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เช่น ศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด การบำบัดโดยอาศัยสัตว์เลี้ยง

การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการความจำเสื่อม ให้หยุดขับรถด้วยตนเอง ไม่ควรให้ผู้ป่วยไปยังสถานที่ไม่คุ้นเคยเพียงลำพัง ไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยไปทำธุระสำคัญคนเดียว เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน และเมื่อมีอาการมากต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา พาผู้ป่วยพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินอาการ ควรให้ผู้ป่วยพกป้ายประจำตัว ให้ระบุชื่อ ที่อยู่ และเบอร์ติด อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการพลัดหลง

ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์สามารถทำได้อย่างไร เราได้รวบรวมมาให้ มีรายละเอียด ดังนี้
1. ในผู้หญิงวัยหมดประำเดือน ต้องให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือให้ฮอร์โมนชนิดผสมเอสโตรเจน-โปรเจสโตโรน  ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ ดังนั้นต้องระวังการบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
2. ให้รับประทานอาหาร ที่มีสิตามินบี 12 และมีกรดโฟลิกสูง จำพวก ผักและผลไม้สด ธัญพืชต่างๆ น้ำมันมะกอก ปลา ไวน์แดง
3. ลดการบริโภค อาหารประเภท ไขมันสูง เค็มจัด หวานจัด และอาหารจานด่วนต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงของดรค โรคไขมันในเส้นเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
5. ทำกิจกรรมที่ฝึกสมองและความคิด เช่น อ่านหนังสือ เล่นหมากรุก เป็นต้น

รวมสมุนไพรช่วยบำรุงสมอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาทได้ มีดังนี้

หอมหัวใหญ่ หอมใหญ่ สมุนไพร พืช บำรุงเลือด บำรุงหัวใจ
หอมหัวใหญ่
มะละกอ ผลไม้ สมุนไพร ประโยชน์ สรรพคุณ
มะละกอ
ดอกชมจันทร์ ยาระบายอ่อนๆ บำรุงเลือด บำรุงสมอง ป้องกันมะเร็ง
ชมจันทร์
งาดำ สมุนไพร ลดความอ้วน บำรุงเลือด บำรุงผิว บำรุงสมอง
งาดำ
หญ้าคา สมุนไพร บำรุงเลือด บำรุงสมอง
หญ้าคา
มะพร้าว ผลไม้ช่วยบำรังสมอง
มะพร้าว
กระเจี๊ยบเขียว สมุนไพรไทย สรรพคุณ บำรุงกระดูก บำรุงสมอง
กระเจี๊ยบเขียว
ตะไคร้ สมุนไพร สารพัดประโยชน์ รักษาระบบประสาท บำรุงสมอง
ตะไคร้

โพสโดย : Lucky
IP : 202.29.178.114
โพสเมื่อวันที่ : 25 ม.ค. 2560,11:15 น.
แสดงความเห็น
ความคิดเห็น :
ชื่อ :
อีเมล :
เบอร์โทร :
กรอกรหัส :