กีตาร์ (อังกฤษ: guitar) เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง จัดเป็นพวกเครื่องสาย มักจะเล่นด้วยนิ้วมือซ้าย และดีดหรือเกาด้วยนิ้วมือขวาหรือใช้ปิ๊กดีดกีตาร์ เสียงของกีตาร์นั้นเกิดจากการสั่นสะเทือนของสาย ทำให้เกิดกำทอน (resonance) แก่ตัวกีตาร์และคอกีตาร์
กีตาร์นั้น มีทั้งแบบกีตาร์อะคูสติก และกีตาร์ไฟฟ้า บางตัวก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง กีตาร์มีส่วนตัวเป็นกล่องกำทอน ซึ่งในกีตาร์อะคูสติกจะเจาะเป็นช่อง ส่วนกีตาร์ไฟฟ้ามักจะตัน และมีโพรงในส่วนคอกีตาร์ โดยทั่วไปแล้วส่วนหัวของกีตาร์จะยืดขึ้นไปจากคอ เพื่อใส่ลูกบิดหมุนสายสำหรับปรับเสียง
กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้แพร่หลาย[ต้องการอ้างอิง] และใช้กับดนตรีหลากหลายสไตล์ นับเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้บรรเลงเดี่ยวอย่างกว้างขวางที่พบเห็นมากที่สุดคือกีตาร์คลาสสิก และยังเป็นเครื่องดนตรีหลักในวงดนตรีประเภทบลูส์ และดนตรีร็อกอีกด้วย กีตาร์สามารถเล่นในยามว่าง หรือ เป็นงานอดิเรกได้ดี
ปกติกีตาร์จะมี 6 สาย แต่แบบ 4- 7- 8- 10- 12- สายก็มีเช่นกัน ผู้ประดิษฐ์กีตาร์จะเรียกว่า Luthier
ประวัติ[แก้]
เครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้ายกีต้าร์เป็นที่นิยมมากว่า 5,000 ปีเป็นอย่างต่ำ โดยเริ่มเป็นที่นิยมในแถบเอเชียกลาง เรียกว่าซิตาร่า (Sitara) เครื่องดนตรีที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกีต้าร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบมีอายุ 3,300 ปี เป็นหินสลักของกวีอาณาจักรโบราณฮิตไตต์
คำว่ากีต้าร์มาจากภาษาสเปนคำว่า guitarra ซึ่งมาจากภาษากรีกอีกทีคือคำว่า Kithara kithara จากหลายแหล่งที่มาทำให้คำว่ากีต้าร์น่าจะมีรากศัพท์มาจากภาษาตระกูลอินโดยูโรเปียน guit- คล้ายกับภาษาสันสกฤต ที่แปลว่า ดนตรี และ -tar หมายถึง คอร์ด หรือ สาย คำว่า qitara เป็นภาษาอาราบิก ใช้เรียก Lute lute ส่วนคำว่า guitarra เกิดขึ้นเมื่อเครื่องดนตรีชนิดนี้ถูกนำมาที่คาบสมุทรไอบีเรียโดย ชาวมัวร์
กีต้าร์ในยุคปัจจุบัน มาจากเครื่องดนตรีที่เรียกว่า cithara ของชาวโรมัน ซึ่งนำเข้าไปแพร่หลายในอาณาจักรฮิสปาเนีย หรือสเปนโบราณ ประมาณ ค.ศ. 40 จากนั้นเปลี่ยนแปลงรูปแบบจนกลายมาเป็น เครื่องดนตรีที่มี 4 สายเรียกว่า อู๊ด (oud) นำเข้ามาโดยชาวมัวร์ในยุคที่เข้ามาครอบครองคาบสมุทรไอบีเรีย ในศตวรรษที่ 8 ส่วนในยุโรปมีเครื่องดนตรีที่เรียกว่า ลุต (lute) ของชาวสแกนดิเนเวียมี 6 สาย ในสมัย ค.ศ. 800 เป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มชาว (ไวกิ้ง)
ค.ศ. 1200 กีต้าร์ 4 สาย มี 2 ประเภท คือ กีตาร่า มอ ริสกา หรือกีตาร์ของชาวมัวร์ มีลักษณะกลม ตัวคอกว้าง มีหลายรู กับกีตาร่า ลาติน่า ซึ่งรูปร่างคล้ายกีต้าร์ในปัจจุบัน คือมีรูเดียวและคอแคบ ในศตวรรษที่ 16 เครื่องดนตรีคล้ายกีต้าร์ของชาวสเปน ที่เรียกว่าวิฮูเอล่า เป็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะใกล้เคียงกับกีต้าร์ในปัจจุบัน มีความผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีอู๊ดของชาวอาหรับและลูตของยุโรป แต่ได้รับความนิยมในช่วงสั้น ๆ พบเห็นจนถึงปี ค.ศ. 1576
เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่มีรูปลักษณ์เหมือนกีต้าร์ในปัจจุบัน เกิดในช่วงยุคปลายของสมัยกลางหรือยุคต้นสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา เป็นช่วงที่มีการใช้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายกันทั่วโลก ในยุคนั้นกีต้าร์มีทั้งแบบ 4 และ 5 สาย สำหรับกีต้าร์ที่มี 6 สาย ระบุว่ามีขึ้นในปี ค.ศ. 1779 เป็นผลงานของนายแกตาโน วินาซเซีย (Gaetano Vinaccia) ในเมืองเนเปิล อิตาลี แต่ก็ถกเถียงกันว่าอาจเป็นของปลอมสำหรับตระกูลวินาซเซียมีชื่อเสียงในการผลิตแมนโดลินมาก่อน
กีต้าร์ไฟฟ้าตัวแรกเริ่มผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 20 โดยจอร์จ โบแชมป์ (George Beauchamp) ได้รับสิทธิบัตรในปี ค.ศ. 1936 และร่วมกับ ริกเค่นแบ็กเกอร์ (Rickenbacker) ตั้งบริษัท Electro String Instrument ผลิตกีต้าร์ไฟฟ้าในช่วงปลายปีทศวรรษที่ 1930 ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1960 จอห์น เลนนอน สมาชิกวงเดอะบีทเทิลส์ใช้กีต้าร์ยี่ห้อนี้ ส่งผลให้เครื่องดนตรียี่ห้อนี้มีชื่อเสียงในกลุ่มนักดนตรีในยุคนั้น และในปัจจุบันบริษัทริกเค่นแบ็กเกอร์ เป็นบริษัทผลิตกีตาร์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ประเภทของกีต้าร์[แก้]
กีตาร์โปร่ง[แก้]
-
Renaissance guitars
-
มีขนาดเล็กกว่ากีต้าร์คลาสสิก ให้เสียงที่เบากว่ามาก ใช้สายไนล่อน แบบเดียวกับกีต้าร์คลาสสิก นิยมเล่นในสมัยโบราณ ปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยม
-
Classical guitars
-
กีต้าร์คลาสสิก (Classic Guitar) หรือกีต้าร์สายไนล่อน นิยมเล่นเพลงบรรเลง แบบ single note (finger-picking) ดังนั้น คอกีต้าร์คลาสสิก จึงมีความกว้างกว่ากีต้าร์ไซด์มาตรฐาน ทั่วไป
-
Nylon String ชนิด Hybrid (หรือกีตาร์ลูกครึ่งระหว่าง กีตาร์คลาสสิกสายไนล่อน กับ กีตาร์โปร่งสายเหล็ก)
-
แม้จะใช้สายกีต้าร์ชนิดไนล่อน แบบเดียวกับกีต้าร์คลาสสิก แต่สัดส่วน องค์ประกอบหลายอย่าง จะต่างจากกีต้าร์คลาสสิก เช่น คอที่เล็กกว่า เพื่อสะดวกในการจับด้วยมือซ้าย
มีภาคไฟฟ้า, คอมี truss rod (เหล็กดามคอ) เพื่อใช้ปรับองศาคอได้, มีคอแบบ cut away, ลำตัว body จะบางกว่ามาตรฐาน เป็นต้น กีต้าร์สายไนล่อนชนิดนี้ สามารถเล่นแนวหรือสไตล์เพลงได้กว้างกว่า กีต้าร์สายไนล่อนชนิด Classic Guitar
-
Flat-top (steel-string) guitars หรือที่รู้จักกันในชื่อ กีต้าร์โปร่ง
-
กีต้าร์โปร่งสายเหล็กมีหลาย ๆ รูปทรง เช่น กีต้าร์ทรง Dreadnought (D), Orchestra Model (OM), Grand Concert (GC), Grand Auditorium (GA), Jumbo (J), และขนาด 3/4 กีต้าร์ขนาดเล็ก
กีต้าร์โปร่งสายเหล็กต่างกีต้าร์คลาสสิกอยู่หลาย ๆ ประการ เช่น วิธีการเล่น, สายกีต้าร์ที่ใช้, โครงสร้างภายในตัวกีต้าร์หรือ Bracing, เหล็กดามคอหรือ truss rod เพื่อปรับแต่งองศาคอได้ เนื่องจาก แรงดึงของสายกีต้าร์มีมาก อาจจะทำให้องศารอเปลี่ยนได้ ผู้เล่นจึงสามารถปรับแต่งองศาได้ตามความชอบ, กีต้าร์โปร่งสายเหล็ก (Flat-top) ถูกสร้างมามากกว่า 180 ปี (หลังมีกีต้าร์สานไนล่อน) เนื่องจากในวงดนตรี มีเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ เข้ามาร่วมเล่นด้วย และประกอบกับสไตล์เพลงมีความหลากหลายมากขึ้น ผู้เล่นจึงต้องการกีต้าร์ที่มีเสียงดัง กังวานมากพอ ที่สามารถใช้รวมเล่นกับเครื่องดนตรีประเภทอื่น ๆ ดังนั้น กีต้าร์โปร่งสายเหล็กจึงมีเอกลักษณ์ที่เสียงดังกังวาน กีต้าร์โปร่งสายเหล็กสามารถเล่นได้กว้างหลากหลายสไตล์เพลง เช่น pop, folk, Bluegrass, finger-style, jazz, blues เป็นต้น กีต้าร์โปร่งที่ดี จะต้องให้เสียงที่ดัง กังวาน มีความ balance ของทุก ๆ ย่านเสียง ทุก ๆ สายกีต้าร์ต้อง balance กัน
-
Archtop guitars
-
จุดเด่นคือ ด้านหน้าของกีต้าร์ (top) จะโค้ง โพรงเสียงไม่เป็นช่องกลม แต่จะเป็นรูปตัว F สะพานยึดสายหรือ Bridge จะแตกต่างจาก กีต้ารโปร่ง
(คนไทยนิยมเรียกว่า หางปลา) นิยมใช้เล่นในดนตรีแจ๊ส และ Blues เอกลักษณ์ของเสียง เสียงของ arch top guitar จะมีเสียงโน้ตห้วน สั้น คือ หางเสียงจะไม่ยาวเหมือกีต้าร์โปร่งสายเหล็กทั่วไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้เหมาะกับการเล่นเพลง Jazz, Blues
-
Resonator
-
หรือ Resophonic หรือ dobro คล้ายกับกีต้าร์ Flat-top นิยมเล่นเพลงสไตล์ Country
-
12 string guitars
-
จุดเด่นคือ จะมีสายกีต้าร์ 12 สาย นิยมใช้เล่นในสไตล์เพลง cowboy, country นิยมใช้ตีคอร์ด ไม่นิยมใช้เล่นแบบ picking
-
Acoustic bass guitars
-
เป็นกีต้าร์เบสในรูปแบบอคูสติก มีสายและเสียงเหมือนกัน โน้ตที่เล่นจะใช้ "กุญแจฟา" ให้เสียงทุ้มต่ำ นุ่มนวล
-
Tenor guitars
-
มี 4 สาย
-
Harp guitars
-
จะมีสาย harp เพิ่มขึ้นมา จากปกติที่มี 6 สาย สาย harp จะให้เสียงต่ำหรือเสียงในช่วงเบส ปกติจะไม่มีฟิงเกอร์บอร์ดหรือเฟร็ต
-
Ukulele Guitar
-
เป็นกีต้าร์ ขนาดเล็ก มี 4 สาย
กีต้าร์ไฟฟ้า[แก้]
แบ่งตามโครงสร้างของลำตัวกีต้าร์ (Body) อาจแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ
-
กีต้าร์ตัวตัน (Solid Body)
-
หมายถึง กีต้าร์ไฟฟ้าปกติที่ลำตัวมีลักษณะตัน ไม่มีการเจาะช่องในลำตัวกีต้าร์เหมือนอย่างกีตาร์โปร่ง หรือ อะคูสติกกีตาร์ แต่บริเวณลำตัวจะมีตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) ขณะที่ดีด เพื่อส่งต่อไปยังเครื่องขยายเสียง (Amplifier) ต่อไป โดยทั่วไป ตัวรับสัญญาณจะมี 2 ประเภท คือ ตัวรับสัญญาณแบบแถวเดี่ยวที่เรียกว่า Single Coil และแบบแถวคู่ที่เรียกว่า Humbucker
-
กีต้าร์ลำตัวกึ่งโปร่ง (Semi-Hallow Bikini
-
เป็นกีต้าร์ไฟฟ้าที่มีลักษณะโครงสร้างส่วนกลางของลำตัวในแนวเดียวกับคอกีต้าร์ มีลักษณะตัน (แต่มีการเจาะช่องเพื่อใส่ตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) เช่นเดียวกับกีต้าร์ตัวตัน) บริเวณส่วนข้างของกีต้าร์มีการเจาะช่อง (Sound Hole) เอาไว้เพื่อให้เกิดการกำทอนของเสียงมากกว่ากีต้าร์ตัวตัน ซึ่งจะให้เสียงที่เป็นอคูสติกมากขึ้น นิยมใช้ในดนตรีแจ๊สหรือบลูส์ เป็นกีต้าร์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อลดเสียงรบกวนที่เรียกว่าFeed back ซึ่งเกิดจากกีต้าร์ไฟฟ้าลำตัวโปร่ง (กล่าวคือ ยังมีเสียงรบกวนบ้างแต่น้อยลงกว่าเดิม)
-
กีต้าร์ลำตัวโปร่ง (Hallow Body)
-
กีต้าร์ไฟฟ้าที่มีการเจาะช่องเอาไว้เพื่อให้เกิดการกำทอนของเสียง (Sound Hole) เช่นเดียวกับกีต้าร์โปร่งหรืออคูสติก และกีต้าร์ลำตัวกึ่งโปร่ง ปกติช่องดังกล่าวมักจะอยู่ด้านข้างของลำตัวกีต้าร์ เนื่องจากบริเวณกลางลำตัวจะมีการใส่ตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) เช่นเดียวกันกับกีต้าร์ตัวตัน ซึ่งผลของการที่มีช่องกำทอนเสียง ทำให้ลักษณะของเนื้อเสียงที่ได้เป็นอคูสติกมากกว่า กีต้าร์ Semi-Hallow Body แต่หากขยายเสียงให้ดังมากจะก่อให้เกิดเสียงรบกวนที่เรียกว่า Feed back กีต้าร์ประเภทนี้มักจะนิยมใช้กับดนตรีแจ๊สหรือบลูส์เป็นส่วนใหญ่
ส่วนประกอบของ กีต้าร์[แก้]
-
เมื่อเทียบกับประเภทของไม้ที่ถูกนำมาใช้ด้านหน้าของกีต้าร์แล้ว ไม้ที่ถูกนำมาใช้เป็นแผ่นหลังและข้างนั้น มีมากมายหลายชนิดกว่า อาจแบ่งออกกว้าง ๆ เป็นตระกูล Rosewood, Walnut, Maple, Koa, Mahogany รวมไปถึงไม้แปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยม และพวกที่ยังไม่ค่อยแพร่หลายนัก เพื่อความสะดวกและเข้าใจได้ง่าย ผู้เขียนจะแบ่งประเภทของไม้ออกเป็นจำพวกคร่าว ๆ ดังนี้
-
ไม้ข้าง และไม้หลัง (back & side) ของกีตาร์
-
Rosewood
-
Mahogany
-
Koa
-
Maple
-
Walnut
-
Ziricote (Cordia Dodecandra)
-
Macassar Ebony (Diospyrus Celebica)
-
Myrtewood
-
African Blackwood
-
African Paduk
-
Imbuia
-
Cherry
-
ไม้หน้า (Top) ของกีต้าร์
-
Sitka Spruce
-
Englemann Spruce
-
Red Spruce
-
German Spruce
-
Alpine Spruce
-
Cedar
-
Port Orford Cedar
-
Redwood
-
Western Larch
|