มนุษย์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Homo sapiens, ภาษาละตินแปลว่า "คนฉลาด" หรือ "ผู้รู้") เป็นสปีชีส์เดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ในสกุล Homo ในทางกายวิภาค มนุษย์สมัยใหม่ถือกำเนิดขึ้นในทวีปแอฟริการาว 200,000 ปีที่แล้ว และบรรลุความนำสมัยทางพฤติกรรม (behavioral modernity) อย่างสมบูรณ์เมื่อราว 50,000 ปีที่แล้ว[1]
เชื้อสายมนุษย์แยกออกจากบรรพบุรุษร่วมสุดท้ายกับชิมแพนซี สิ่งมีชีวิตที่ใกล้ชิดที่สุด เมื่อราว 5 ล้านปีที่แล้วในแอฟริกา ก่อนจะวิวัฒนาการไปเป็นออสตราโลพิเธซีน (Australopithecines) และสุดท้ายเป็นสกุล Homo[2] สปีชีส์ โฮโม แรก ๆ ที่อพยพออกจากแอฟริกา คือ Homo erectus, Homo ergaster ร่วมกับ Homo heidelbergensis ซึ่งถูกมองว่าเป็นบรรพบุรุษสายตรงของมนุษย์สมัยใหม่[3][4] Homo sapiens ยังเดินหน้าตั้งถิ่นฐานในทวีปต่าง ๆ โดยมาถึงยูเรเชียระหว่าง 125,000-60,000 ปีที่แล้ว[5][6] ทวีปออสเตรเลียราว 40,000 ปีที่แล้ว ทวีปอเมริการาว 15,000 ปีที่แล้ว และเกาะห่างไกล เช่น ฮาวาย เกาะอีสเตอร์มาดากัสการ์ นิวซีแลนด์ระหว่าง ค.ศ. 300 ถึง ค.ศ. 1280[7][8] ราว 10,000 ปีที่แล้ว มนุษย์เริ่มเกษตรกรรมแบบอยู่กับที่ โดยการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ป่า ทำให้ประชากรทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงและเทคนิคใหม่ ๆ ซึ่งเป็นการพัฒนาสาธารณสุขในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 ประชากรมนุษย์ยิ่งเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะมนุษย์พบอาศัยอยู่ทุกทวีปยกเว้นแอนตาร์กติกา จึงได้ชื่อว่าเป็น "สปีชีส์พบได้ทั่วโลก" (cosmopolitan species) จนถึงเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ประชากรมนุษย์ที่กองประชากรสหประชาชาติประเมินไว้อยู่ที่ราว 7 พันล้านคน[9]
มนุษย์มีลักษณะพิเศษ คือ มีสมองใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัว โดยเฉพาะสมองชั้นนอก สมองส่วนหน้า และสมองกลีบขมับที่พัฒนาเป็นอย่างดี ทำให้มนุษย์สามารถให้เหตุผลเชิงนามธรรม ใช้ภาษา พินิจภายใน (introspection) แก้ปัญหาและสร้างสรรค์วัฒนธรรมผ่านการเรียนรู้ทางสังคม ขีดความสามารถทางจิตใจของมนุษย์นี้ ประกอบกับการปรับตัวมาเคลื่อนไหวสองเท้าซึ่งทำให้มือว่างจัดการจับวัตถุได้ ทำให้มนุษย์สามารถใช้อุปกรณ์เครื่องมือได้ดีกว่าสปีชีส์อื่นใดบนโลกมาก มนุษย์ยังเป็นสปีชีส์เดียวเท่าที่ทราบที่ก่อไฟและทำอาหารเป็น สวมใส่เสื้อผ้า และสร้างสรรค์และใช้เทคโนโลยีและศิลปะอื่น ๆ การศึกษามนุษย์เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์ เรียกว่า มานุษยวิทยา
มนุษย์มีเอกลักษณ์ความถนัดในระบบการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ เช่น ภาษา เพื่อการแสดงออก แลกเปลี่ยนความคิด และการจัดระเบียบ มนุษย์สร้างโครงสร้างทางสังคมอันซับซ้อน ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มจำนวนมากที่มีทั้งร่วมมือและแข่งขันกัน จากครอบครัวและวงศาคณาญาติ ไปจนถึงรัฐ ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างมนุษย์ได้ก่อตั้งค่านิยม บรรทัดฐานทางสังคมและพิธีกรรม ซึ่งรวมกันเป็นรากฐานของสังคมมนุษย์ มนุษย์ขึ้นชื่อในความปรารถนาที่จะเข้าใจและมีอิทธิพลเหนือสิ่งแวดล้อม แสวงหาคำอธิบายและปรับเปลี่ยนปรากฏการณ์ต่าง ๆ ผ่านวิทยาศาสตร์ ปรัชญา เทพปกรณัม และศาสนา
ประวัติศาสตร์[แก้]
วิวัฒนาการ[แก้]
การศึกษาวิวัฒนาการของมนุษย์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ศึกษาพัฒนาการของสกุล Homo การปะติดปะต่อวิวัฒนาการเบนออกของเชื้อสายมนุษย์จากโฮมินิน (บรรพบุรุษร่วมระหว่างมนุษย์กับชิมแปนซี) โฮมินิด (ลิงไม่มีหางขนาดใหญ่) และไพรเมตอื่น ๆ "มนุษย์สมัยใหม่" นิยามว่าอยู่ในสปีชีส์ Homo sapiens และโดยเจาะจงว่าอยู่ในสปีชีส์ย่อย Homo sapiens sapiens เพียงหนึ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน
หลักฐานจากชีววิทยาโมเลกุล[แก้]
สิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ คือ กอริลลาและชิมแปนซี ด้วยการเรียงลำดับของจีโนมมนุษย์และชิมแปนซี การประเมินความพ้องระหว่างลำดับดีเอ็นเอของมนุษย์กับชิมแปนซีในปัจจุบันมีพิสัยระหว่าง 95% ถึง 99%[10][11][12][13] โดยการใช้เทคนิคที่เรียกว่า นาฬิกาโมเลกุล ซึ่งประเมินเวลาที่จำนวนการกลายเบนออกต้องการสะสมระหว่างเชื้อสายทั้งสอง ซึ่งจะทำให้ช่วงเวลาโดยประมาณที่เกิดการแยกเชื้อสายสามารถคำนวณได้ ชะนี (hylobatidae) และอุรังอุตัง (สกุล Pongo) เป็นกลุ่มแรก ๆ ที่แยกออกจากสายที่นำไปสู่มนุษย์ จากนั้นเป็นกอริลลา (สกุล Gorilla) ตามมาด้วยชิมแปนซีและลิงโบโนโบ (สกุล Pan) เชื้อสายมนุษย์และชิมแปนซีแยกจากกันระหว่าง 8-4 ล้านปีที่แล้ว ในปลายสมัยไมโอซีน[14][13][15]
หลักฐานจากบันทึกซากดึกดำบรรพ์[แก้]
มีหลักฐานซากดึกดำบรรพ์เพียงเล็กน้อยที่อธิบายการเบนออกของเชื้อสายกอริลลา ชิมแปนซี และโฮมินิน ซากดึกดำบรรพ์เก่าแก่ที่สุดที่ถูกเสนอเป็นสมาชิกของเชื้อสายโฮมินิน คือ Sahelanthropus tchadensis ซึ่งมีอายุราว 7 ล้านปี, Orrorin tugenensis ซึ่งมีอายุราว 5.7 ล้านปี และ Ardipithecus kadabba ซึ่งมีอายุราว 5.6 ล้านปี แต่ละสปีชีส์ดังกล่าวมีการโต้แย้งว่าเป็นบรรพบุรุษสองเท้าของโฮมินินในสมัยหลัง แต่ข้ออ้างในแต่ละกรณีได้ถูกคัดค้าน เป็นไปได้ว่า สปีชีส์หนึ่งข้างต้นเป็นบรรพบุรุษของลิงไม่มีหางแอฟริกาอีกสาขาหนึ่ง หรือพวกมันอาจเป็นบรรพบุรุษร่วมของโฮมินินกับลิงไม่มีหางอื่น ๆ คำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ยุคต้นเหล่านี้กับเชื้อสายโฮมินินยังต้องหาคำตอบต่อไป จากสปีชีส์ยุคแรกเริ่มเหล่านี้ ออสตราโลพิเธซีน (Australopithecines) ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 4 ล้านปีที่แล้ว และเบนออกเป็นสาขา Robust (หรือเรียกว่า Paranthropus) และ Gracile ซึ่งหนึ่งในนั้น (อาจเป็น A. garhi) ต่อมาเป็นบรรพบุรุ |