ปัญหาการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่นับว่าทันสมัยและเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วมาก เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ เป็นต้น
ปัญหาก็คือ
1. ตัวผู้ใช้เทคโนโลยีสามารถใช้เทคโนโลยีได้ดีมากน้อยแค่ไหน ใช้คุมค่าไหม จำเป็นต่อการใช้เทคโนโลยีชิ้นที่แพงนั้นหรือเปล่า
2. คนไม่สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
3. บุคคลที่มีความรู้ความสามารถจริงในเรื่องเทคโนโลยีมีน้อย
4.การศึกษาของคนในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาการนำเทคโนโลยีมาใช้
การศึกษากับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คือ สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาที่ได้ยกตัวอย่างมาแล้วนั้นต้นเหตุหลักประการหนึ่ง คือ การขาดโอกาสทางการศึกษา ความยากจน เป็นต้นเพราะการศึกษาเป็นกุญแจนำไปสู่การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยดังพุทธพจน์ว่า นัตถิ ปัญญา สมา อภา แสงสว่างเปรียบเสมือนปัญญาไม่มี ปัญญาก็คือตัวความรู้นั้นเอง ฉะนั้น รัฐ ต้องส่งเสริมให้คนทุกคนมีการศึกษาและคุณธรรมก่อน โดยเฉพาะให้การศึกษาเกี่ยวกับทางสายกลาง หรือเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิตในการประกอบอาชีพ และการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศที่ทันสมัยในการหาข้อมูล เพราะถือว่าในโลกอนาคตจะเป็นคลังอาวุธคลังปัญญาที่ดีเยี่ยม

เศรษฐกิจพอเพียงกับการส่งเสริมการใช้ ICTเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมโยงองค์ความรู้สู่สังคม ในแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศรีนครรินทรวิโรฒ พ.ศ. 2547-2549 นั้น ยุทธศาสตร์ที่ 4 : การส่งเสริมการใช้ ICTเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมโยงองค์ความรู้สู่สังคม มีวัตถุประสงค์ ให้มีการนำ ICT มาใช้ในการจัดระบบความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือในการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัยและสังคมโดยมีเป้าหมาย แผนงาน โครงการ จัดทำเป็นแผนแม่บทและสัมพันธ์กับยุทธศาสตร์ด้านอื่น ๆ ตามเอกสารฉบับสมบูรณ์ของแผนแม่บทนั้น การนำหรือประยุกต์เศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางนั้น ต้องมีความรู้เบื้องต้นว่า เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดตลอดรวมถึงการพัฒนาและบริหารประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำจากปรัชญาดังกล่าว เป้าหมายให้มีการนำ ICT มาใช้ในการจัดระบบความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือในการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัยและสังคมนั้น ควรตั้งอยู่บนพื้นฐาน ของมหาวิทยาลัยทางการศึกษา ซึ่งตัวองค์กรของมหาวิทยาลัยมีความโดดเด่น หรือมีภาพลักษณ์ด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว และควบคู่กับความพอประมาณ ในการนำอุปกรณ์ด้าน ICT มาสนับสนุน จะต้องอยู่บนพื้นฐานความเหมาะสมหรือทางสายกลาง ระหว่าง ตัวความรู้และอุปกรณ์สนับสนุนให้มีความสมดุลหรือความมีเหตุผลซึ่งกันและกัน ทั้งนี้อาจจะพิจารณาตัวชี้วัดความรู้ในรูปของประสิทธิพลและด้านอุปกรณ์ด้าน ICT ที่สนับสนุนในรูปของประสิทธิภาพ ควบคู่กันไป ในด้านเป้าหมายให้มีระบบบริการให้คำปรึกษาด้านต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายเพื่อการบริการแก่สังคม นั้นควรมุ่งเน้นบริการให้คำปรึกษาด้าน ต่าง ๆ โดยมีการศึกษาเป็นแกนหลัก ซึ่งจะสอดคล้องกับการตั้งอยู่บนพื้นฐานตัวองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาอยู่แล้ว อีกทั้งเป้าหมายให้มีการใช้ ICT อย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมโยงและเผยแพร่ความรู้ โดยมีการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำอย่างรอบคอบ ให้คุ้มค่ากับการลงทุนด้าน ICT ซึ่งมีต้นทุนที่สูง และต้องพิจารณาปัจจัยทางเทคโนโลยีควบคู่กันไป และเป้าหมายให้มีโครงการบริการวิชาการเพิ่มมากขึ้น นั้นให้มีความหลากหลายและเข้าถึงความต้องการของสังคมมากขึ้น ต้องพิจารณาควบคู่กับความพอประมาณและความมีเหตุผล ควบคู่กันไปตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
“การใช้อินเตอร์เน็ตในองค์กรตามแนววิถีพอเพียง” ในปัจจุบันโลกของเราจะเป็นโลกยุคโลกาภิวัฒน์เป็นยุคที่ไร้พรมแดนมีการติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก มีการนำเทคโนโลยีสาระสนเทศและการสื่อสารมาใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถติดต่อสื่อสารหรือเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา หลายคนใช้อย่างฟุ่มเฟือย ไม่เหมาะสม ขาดคุณธรรม และจริยธรรม ดังนั้นหากเรานำปรัชญาเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” (Sufficiency Economy) ซึ่ง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการ ดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดรวมถึงการพัฒนาและบริหารประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันจะทำให้ทุกคนนำมาใช้อย่างสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นสาระสำคัญของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั่นคือเป้าหมายในการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล และมีระบบภูมิคุ้มกัน โดยดำเนินการภายใต้เงื่อนไขด้านความรู้และคุณธรรม หากนำกรอบแนวพระราชดำรินี้มาประยุกต์เพื่อดำเนินการพัฒนาการใช้อินเตอร์เน็ตในองค์กรให้ถูกที่ ถูกเวลา และเหมาะสม เพื่อไม่ให้ภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายขาดประสิทธิผลและประสิทธิภาพ โดยอาศัยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ความพอประมาณ การพัฒนาตามหลักความพอประมาณ คือ ใช้ทางสายกลางโดยใช้อินเตอร์เน็ตในเวลาที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยเกินไป ไม่ใช่ทั้งวันทำให้เสียงาน องค์กรได้รับความเสียหาย ความมีเหตุผล พิจารณาอย่างรอบคอบควรจะทราบว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด ข้อดี ข้อเสีย ควรมีเหตุมีผล ไม่ใช้เฉพาะเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของตนเอง อีกทั้งควรคำนึงถึงผลกระทบต่อความเดือดร้อน ความเสียหายของผู้อื่นที่เขาจะได้รับด้วยการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว มีการเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หากไม่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ เราจะทำอย่างไรถึงจะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร เราก็สามารถใช้สื่ออื่น ๆ แทนได้ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วเราควรต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขด้านความรู้และคุณธรรมควบคู่กันไปด้วย ใช้อินเตอร์เน็ตอย่างผู้มีความรู้ มีความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อองค์กร รู้จักกาลเทศะ ความเหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญคือควรมีจริยธรรมในการใช้อินเตอร์เน็ต
คอมพิวเตอร์ กับ เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง คือ ปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต แก่พวกเราชาวไทยมานานกว่า 30 ปี พระองค์ได้ทรงเน้นย้ำให้พวกเราใช้เป็นแนวทางการแก้ไข เพื่อให้ประเทศไทยสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ และความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในทุกๆด้าน ดังนั้น หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงเน้นการปฏิบัติที่ไม่ประมาท นั่นคือ เน้นให้เราดำเนินชีวิตบน “ ทางสายกลาง “ ก็คือ ความพอเหมาะพอดี ไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไป ไม่สุดโต่ง ไม่โลภมาก ไม่ฟุ้งเฟ้อจนเกินฐานะ แต่ก็ไม่ใช่ตระหนี่ถี่เหนียวหรือประหยัดจนขาดแคลน จะเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่สนพระทัยใฝ่รู้และทรงศึกษาอย่างจริงจัง ลึกซึ้งในการค้นคว้าวิจัยเพื่อการพัฒนาในทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเกษตร การชลประทาน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศนั้น ทรงเห็นความสำคัญและประโยชน์อย่างยิ่ง ทรงสนับสนุนการค้นคว้าในทางวิทยาการคอมพิวเตอร์ ในด้านส่วนพระองค์นั้นทรงศึกษาคิดค้นสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการประมวลผลข้อมูลต่างๆ ด้วยพระองค์เอง ทรงประดิษฐ์รูปแบบตัวอักษรไทยที่มีลักษณะงดงาม เพื่อแสดงผลบนจอภาพคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ ทรงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกพระราชกรณียกิจต่างๆ และทรงติดตั้งเครือข่ายสื่อสารคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนพระราชภารกิจต่างๆ ทั้งยังทรงเคยประดิษฐ์ ส.ค.ส. ด้วยคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนเพื่อทรงอวยพรปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในงานส่วนพระองค์ทางด้านดนตรี โดยทรงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการป้อนโน้ตเพลงและเนื้อร้อง พระองค์ท่านทรงศึกษาวิธีการใช้เครื่องและโปรแกรมที่เกี่ยวข้องด้วยพระองค์เอง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประกอบด้วย 3 หลัก กับ 2 เงื่อนไข คือ
1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่น้อยเกินไป และ ไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่นและตนเอง
2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
2 เงื่อนไข
1. คุณธรรม คือ ผู้ที่ปฏิบัติหรือผู้ที่ตัดสินใจนั้น ควรจะตัดสินใจด้วยคุณธรรม เช่น ความซื่อสัตย์ ความเพียร ความอดทน
2. ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวัง ไม่ใช่มีความรู้แค่ในตำรา แต่ต้องเป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ด้วยในปัจจุบันระบบสารสนเทศมีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล การส่งข้อมูลข่าวสาร การติดต่อสื่อสาร ซึ่งต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง และในเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ดัง นั้นถ้าเราจะนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ร่วมด้วย ก็จะต้องมีการวางแผนซื้อซอฟต์แวร์ที่เราจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ถึงแม้ว่าจะมีราคาสูง เราก็ต้องตัดสินใจซื้อตามความเหมาะสมเพราะว่าประเทศไทยยังไม่สามารถผลิต ซอฟต์แวร์ใช้เองได้ เรายังต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ โดยต้องดูความคุ้มทุนด้วย แต่ถ้าเรานำแนวคิดการพัฒนาซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สมาใช้แก้ปัญหา ก็จะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดการผูกขาดสินค้าจากต่างประเทศ เพราะว่าเราสามารถผลิตซอฟต์แวร์ใช้ได้เอง และการผลิตก็ต้องเหมาะสมกับการใช้งานของคนไทย รวมทั้งลดปัญหาการละเมิดลิขสิทธ์ของต่างประเทศ ถึงแม้ว่าการพัฒนาซอฟต์แวร์อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่หากมีการปฏิบัติได้จริง ก็จะช่วยให้คนไทยมีงานทำเพิ่มขึ้น และอาจมีการพัฒนาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย
|